โซ่ส่งกำลัง มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ โครงสร้าง และลักษณะการใช้งาน ประเภทของโซ่ส่งกำลังที่นิยมใช้ ได้แก่
โซ่ลูกกลิ้ง ( ROLLER CHAIN ) : เป็นโซ่ส่งกำลังประเภทที่นิยมใช้มากที่สุด ประกอบด้วยแผ่นประกบ Roller และ Bush
โซ่ซับเสียง ( Silent chain ) : เป็นโซ่ส่งกำลังประเภทที่เงียบกว่าโซ่ลูกกลิ้ง
โซ่แรงสูง ( Power chain ) : เป็นโซ่ส่งกำลังประเภทที่ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี
โซ่สายพาน ( Timing belt ) : เป็นโซ่ส่งกำลังประเภทที่ใช้สำหรับเครื่องจักรที่ต้องการความแม่นยำสูง
ข้อดีของโซ่ส่งกำลัง
- มีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดกำลังสูง
- ทนทานต่อการใช้งานหนัก
- สามารถรับแรงกระแทกได้ดี
- บำรุงรักษาง่าย
- ต้นทุนต่ำ
การใช้งาน โซส่งกำลังนิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
- เครื่องจักรกลการเกษตร เช่น เครื่องเกี่ยวข้าว เครื่องตัดหญ้า
- เครื่องทอผ้า เช่น เครื่องจักรทอผ้า เครื่องพิมพ์ผ้า
- เครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ เช่น เครื่องบรรจุหีบห่อ เครื่องแพ็คเกจจิ้ง
- เครื่องจักรก่อสร้าง เช่น เครื่องยกน้ำหนัก เครื่องตอกเสาเข็ม
ข้อควรระวัง ในการเลือกโซ่ส่งกำลัง ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆดังนี้
1. กำลังที่ใช้ในการขับเคลื่อน โซ่ควรมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับแรงบิดและแรงกระแทกจากเพลาขับ
2. ระยะทางในการส่งกำลัง โซ่ควรมีความยาวเพียงพอที่จะส่งกำลังไปยังเพลาตาม
3. ความเร็วในการส่งกำลัง โซ่ควรสามารถรับความเร็วในการส่งกำลังได้โดยไม่เกิดการสั่นสะเทือน
4. สภาพแวดล้อมในการทำงาน โซ่ควรมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น ความชิ้น ฝุ่นละออง
วิธีการบำรุงรักษาโซ่
การบำรุงรักษาโซ่ส่งกำลังอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้โซ่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น วิธีการบำรุงรักษามีดังนี้
1. ทำความสะอาด : ควรทำความสะอาดโซ่และเฟืองเป็นประจำ เพื่อป้องกันคราบสกปรก ฝุ่นละออง และเศษวัสดุต่างๆ ที่อาจทำให้โซ่สึกหรอและเสียหาย
2. ตรวจสอบความตึงของโซ่ : ควรตรวจสอบความตึงของโซ่อย่างสม่ำเสมอ โดยให้โซ่มีระยะห่างระหว่างข้อต่อประมาณ 1/2 นิ้ว
3. หล่อลื่น : ควรหล่อลื่นโซ่และเฟืองโซ่เป็นประจำ โดยเลือกใช้น้ำมันหรือจารบีที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน
4. เปลี่ยนโซ่เมื่อชำรุด : หากโซ่มีรอยสึกหรอ รอยแตก หรือชิ้นส่วนที่ชำรุด ควรเปลี่ยนโซ่ใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ข้อควรระวัง
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับโซ่ที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อความปลอดภัย
- ควรถอดโซ่ออกจากเครื่องจักร ก่อนการทำความสะอาดหรือซ่อมแซม
- ควรเลือกใช้น้ำมันหรือจารบีที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อโซ่และเฟือง- หากโซ่มีร่องรอยความเสียหาย ควรเปลี่ยนโซ่ใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัย